ลองเล่นหุ้นแบบ Low Risk High Return

ลองเล่นหุ้นแบบ Low Risk High Return

ก็ไอ้เพราะคำว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน” นี่แหละทำให้ใครหลายคน ถอดใจพับโปรเจคการลงทุนไปตามๆ กัน ที่จริงแล้วก็เป็นอย่างที่เค้าว่ากันว่า “มันมีความเสี่ยง” แต่ความเสี่ยงมันมีหลายระดับนะครับ เช่นเก็บเงินไว้กับตัวเองในกระเป๋าสตางค์ ก็มีความเสี่ยง เสี่ยงที่จะเอาเงินไปซื้อของที่อยากได้หมด เสี่ยงที่จะถูกยืมเงิน เสี่ยงที่จะถูกขโมยกระเป๋าสตางค์เห็นไหมครับเสี่ยงไปหมดเลย
เล่นหุ้นแต่ถ้าเรารู้ว่าจะจัดการความเสี่ยงต่างๆ นั้นทำได้อย่างไรบ้าง ความเสี่ยงก็จะน้อยลงซึ่งถ้าเงินอยู่ในกระเป๋าสตางค์เฉยๆไม่ได้ทำอะไร ก็ไม่ถือว่าเป็นการลงทุน แต่ถ้าให้เพื่อนยืมแล้วเก็บดอก ก็ถือว่าเป็นการลงทุน แต่ก็มีเสี่ยงอีกถ้าหากเพื่อนไม่คืนหรือเพื่อนไม่ให้ดอกเบี้ยครั้นจะเอาเงินไปฝังดินก็เสี่ยงปลวกมาแทะอีก  เอ้…แล้วยังไงหล่ะเนี่ยเสี่ยงไปหมด เพราะฉะนั้นเอาเงินไปใส่ธนาคารรับดอกเบี้ยรายปีไปละกัน
แต่!! เราอย่าพึ่งกังวลกับความเสี่ยงมากเกินไปจนทำให้เราไม่สามารถลงทุนอะไรได้เลยครับ ผมเองก็ชอบลงทุนแบบไม่เสี่ยงเหมือนกันครับเงินเรามีค่ามาก และกว่าจะหามาได้ ถ้าเสี่ยงมากพลาดมา เงินสูญหมดตัว สติแตก เศร้าสลด หมดหนทางไม่มีคนคบ (อันนี้ก็โอเวอร์ไปหน่อย :-))
ลองดูวิธีผมไหมครับเผื่อจะเป็นทางออกให้กับผู้ที่ไม่อยากเสี่ยงมาก แต่อยากได้เงินตอบแทนสูงแบบที่เค้าเรียกกันว่า “Low Risk High Return” ดูอินเตอร์กันเลยทีเดียว  แต่หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงว่าผมกำลังพูดถึงเรื่อง การลงทุนใน “ตลาดหุ้น” มีเสียงตะโกนตามหลังมาเลยว่า ในตลาดหุ้นมันเป็นการลงทุนแบบ “High Risk High Return” ไม่ใช่เหรอ พูดอีกก็ถูกอีก แต่ผมมีวิธีที่ทำให้มันเสี่ยงต่ำกว่าเดิม อยู่ 5 วิธี มาลองดูกันดีกว่าครับ

5 วิธีการเบื้องต้นง่ายๆ ในการเล่นหุ้นแบบ Low Risk High Return

  1. ลงทุนในหุ้นตัวที่เป็น Blue-chip: มีคนร้อง….อ๋อ Blue-chip คือหุ้นสีน้ำเงิน แล้วก็วิ่งไป ดูว่าในหุ้นของเราตัวไหนเป็นสีน้ำเงินแล้วก็ซื้อ แต่จนแล้วจนเล่ารอมาทั้งวันก็เห็นแต่ แดงกะเขียวไม่เห็นมีสีน้ำเงินเลยเอ่อ! คุณครับ! ไม่ใช่แล้วครับ ความหมายของ คำว่า Blue-chip คือสมัยก่อนChipที่ใช้แทนเงินในคาสิโนนั้นจะมีราคาต่างกันออกไป แต่ตัว Chip ที่มีราคาแพงที่สุด จะมีสีน้ำเงิน ดังนั้น ความหมายของคำว่า หุ้น Blue-chip  ก็คือหุ้นที่มีราคาแพง หรือหุ้นที่มีความมั่นคงสูง ราคาไม่แกว่งมาก หุ้นตัวนั้นแหละครับ จะสร้างความมั่นใจให้เราว่าเงินจะไม่สูญไปได้อย่างง่าย ๆ ในสภาวะตลาดปกติ หรือแม้กระทั่งในช่วงตลาดซบเซาก็ยังไม่อันตรายเกินไป
  2. ซื้อหุ้นตัวที่เงินปันผลงาม: หุ้นเกือบทุกตัวมีการจ่ายเงินปันผลรายปีอยู่แล้วยกเว้นหุ้นที่เป็นลูกหุ้นบางตัว หรือหุ้นที่บริษัทขาดทุนไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ ดังนั้นก็เลือกซื้อหุ้นที่เงินปันผลดี ๆ  ราคาไม่แพงจนเกินไป เก็บไว้นานๆ เหมือนกินดอกเบี้ย
  3. ซื้อตอนแดง: อันนี้ผมหมายถึงสภาวะตลาดหุ้น มีขึ้น-มีลง มีเขียว-มีแดง ดังนั้นเล็งหุ้นตัวที่เราอยากซื้อไว้ดีๆ มันมีจังหวะแดงๆ ก็ซื้อไว้ซักหน่อยเฉลี่ยไป แต่!อย่าซื้อแบบรวดเดียวหมดหน้าตัก เพราะเผื่อว่าพรุ่งนี้มันลงเพิ่ม มันจะทำให้คุณจะเสียโอกาสและควรจะถือยาวๆไปครับ เห็นแดงก็เก็บนิดหน่อยตามกำลังทรัพย์
  4. ไม่ตกใจขายรวดเดียวหมด: หลายคนเห็นตารางเป็นสีแดงของหุ้นใน Port ของตัวเองขาดทุนหลายตัวแนะนำว่าอย่าพึ่งขายครับ ภาษาหุ้นเรียกว่า “อย่า cut loss”เพราะเราลงทุนแบบระยะยาว คือถือไว้เรื่อยๆ ขอให้มีวินัยครับ อย่า cut loss ให้ถือเอาไว้ก่อนซึ่งหลายคนบอกว่าหุ้นที่ซื้อมาพื้นฐานไม่ดีอยู่แล้วถือไว้ก็ขาดทุนสิ ดังนั้นให้กลับไปอ่านข้อ 1, 2 ก่อนแล้วตั้งสติใหม่ คุณซื้อหุ้นตัวนี้มาเพราะอะไร
  5. ขายเมื่อจำเป็น: ไหนบอกอย่าขายไง ป่าวนะ! ผมไม่ได้บอกว่าห้ามขาย ถ้าจะขายก็สามารถขายได้ถ้าจำเป็น แต่ไม่ใช่ขายเพราะตกใจ ยกตัวอย่างเช่น คุณซื้อหุ้นตัวหนึ่งมาในราคา 1 บาทเก็บมาเรื่อยๆ จนได้ 100,000 หุ้น แล้วต้องการ เอาเงินไปใช้เที่ยวเกาหลีกลางปีหน้า ซักหน่อย ตอนนี้ราคาหุ้นตัวนี้ก็ปาเข้าไป  20 บาท และได้เงินปันผลมาก็พอสมควรแล้ว คุณก็ทยอยรินขายหุ้นตัวนี้ไปที่ละน้อย แต่อย่าขายหมดเชียว เพราะทุนคุณยังมีราคาต่ำกว่าตลาด พอคุณใช้เงินเสร็จก็กลับมาซื้อเพิ่มราคาหุ้นรวมก็จะเฉลี่ยกันไปทำให้ราคารวมเฉลี่ย ยังถูกว่าตลาดอยู่ดีหรือจะซื้อตัวอื่นก็ได้ แต่ต้องไปอ่านคำแนะนำ ข้อ 1,2 ก่อนนะครับ
ถ้าลองทำตามได้แบบนี้แล้วผมมั่นใจครับว่าท่านจะได้ประโยชน์จากการลงทุนในตลาดหุ้นไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างเช่น กำลังทรัพย์ การเข้าตลาดหุ้นในเวลาที่เหมาะสม การเลือกหุ้นที่ต้องการเป็นต้น
เหมือนเดิมครับขอเตือนด้วยคำว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุนทุกครั้ง” ดังนั้นผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลให้ดี ๆ หน่อยเงินของเรา เราเสี่ยงเองไม่ได้มีใครมาบังคับ แต่จะทำอย่างไรให้เสี่ยงน้อยที่สุด และได้รับผลจากการลงทุนมากที่สุด นี่แหละครับเป็นหัวใจ มองๆ หน้าจอหุ้นที่เล็งไว้มันแดงซะด้วยซิ ผมขอตัวไปช้อนหุ้นก่อนนะครับ

ที่มา http://www.stocktipsdd.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น



"คำเตือนความเสี่ยง: ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่นำเสนอโดย บริษัท ดำเนินการในระดับสูงของความเสี่ยงและอาจส่งผลในการสูญเสียของเงินทุนทั้งหมดของคุณคุณไม่ควรลงทุนเงินที่คุณไม่สามารถจะสูญเสีย.."

บทความที่ได้รับความนิยม